Socail Media

หน้าเว็บ

วันอังคารที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

SEACON BANGKAE




SEACON BANGKAE คลื่นสีสันแห่งการช้อปปิ้ง
ความรื่นรมย์ครั้งใหม่ที่ตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์กว่า 250ร้านค้า บนถนนเพชรเกษม ที่พร้อมเติบโต สัญจรง่าย ครบครันทันสมัย ยิ่งใหญ่ครอบคลุมอำนาจซื้อของลูกค้ากว่า 9 แสนคน




Seacon Bangkae
อาคารโมเดิร์น Wave Design
บนพื้นที่กว่า 40 ไร่
สีสันแห่งการลงทุนครั้งใหม่ ที่คุณจะมีส่วนปลุกไลฟ์สไตล์ล้ำสมัยให้คืนสู่ถนนสายเพชรเกษม

พื้นที่ทั้งหมด : 300,000 ตร.ม.
พื้นที่เช่า : 130,000 ตร.ม.
จำนวนชั้น : 5 ชั้น
ร้านค้า : 250 ร้าน
พื้นที่จอดรถ : 4,000 คัน


ซีคอน บางแค โดดเด่นด้วยการตกแต่งสไตล์ Modern Contemporary ที่เน้นความโปร่งโล่งสบายจากแสงธรรมชาติ เปิดมุมมองให้เห็นได้ทุกชั้นเพื่อให้ร้านค้าโดดเด่น สร้างประสบการณ์ให้เห็นได้ทุกชั้นเพื่อให้ร้านค้าโดดเด่น สร้างประสบการณ์ใหม่ในการช้อปปิ้งได้อย่างลงตัวกับลานอเนกประสงค์ขนาดใหญ่ถึง 3 ลาน ที่พร้อมรองรับกิจกรรมทุกรูปแบบ เพื่อสร้างสีสันความหลากหลายตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ของคุณ














รองรับกำลังของลูกค้าจากทุกพื้นที่ กว่า 9 แสนคน ในรัศมี 10 กม.
(สูงกว่าโซนบางนา-ศรีนครินทร์ที่มีจำนวนประชากร 6 แสน 5 หมื่นคน) ซึ่งคำนวณเป็นความหนาแน่นของประชากร 6,845 คน ต่อ ตร.กม. ซึ่งสูงกว่าซีคอนศรีนครินทร์ ซึ่งความหนาแน่นของประชากรอยู่ที่ 3,339 กว่าคน ต่อ ตร.กม.อีกทั้งรายล้อมไปด้วยสถานศึกษากว่า 220 แห่ง รวมมหาวิทยาลัย 4 แห่ง โรงพยาบาล 3 แห่ง ด้วยลักษณะประชากรที่หลากหลาย จึงมั่นใจได้ สำหรับการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่มีไลฟ์สไตล์แตกต่าง

ศักยภาพในการเดินทางที่หลากหลาย
รองรับการเดินทางทุกรูปแบบ มีถนนเครือข่ายเชื่อมถึงสะดวก ไม่ว่าจะเป็นวงแหวนตะวันตก ถนนราชพฤกษ์ ถนนปิ่นเกล้านครไชยศรี พุทธมณฑล นอกจากนี้รถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงินเส้นทางหัวลำโพง-บางแค และเส้นทาง บางซื่อ-ท่าพระ เป็นรถไฟฟ้าที่จะวิ่งผ่านซีคอนบางแค โดยมีสถานี ภาษีเจริญตั้งอยู่บริเวณด้านหน้า พร้อมทางเชื่อมเข้าสู่ศูนย์การค้าโดยตรง ซึ่งจะเสร็จสมบูรณ์ในปี พ.ศ. 2559 (รถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงินนี้ยังเชื่อมกับรถไฟฟ้า BTS ที่วิ่งมาจากถนนสาธร-สะพานตากสินด้วย)
Demographic Highlights
70%เป็นพนักงานบริษัทและเจ้าของธุรกิจ
49%ของผู้ปกครองที่มีลูกอายุระหว่าง 4-17 ปี
 มีความประสงค์จะส่งลูกเรียนติวเตอร์และเสริมทักษะ
70%สนใจเรื่องความงาม แฟชั่น และทานอาหารนอกบ้าน
(ที่มาของข้อมูล: เดอะเสิร์ชเชอร์ จำกัด, พ.ศ. 2553)

Consumer's Lifestyle

42.2%ชอบในการใช้เงินหาความสุขในชีวิตปัจจุบัน
36%ช้อปปิ้งโดยเฉลี่ยสัปดาห์ละครั้ง และ 34.8%ช้อปปิ้งโดยเฉลี่ย 2 สัปดาห์ต่อครั้ง

ด้านการรับประทานอาหาร
57.8% ชอบรับประทานร้านอาหารใหม่ๆ
51.5% ชอบรับประทานอาหารนอกบ้านกับเพื่อน
50.0% ชอบรับประทานอาหารตามศูนย์การค้า
(ค่าใช้จ่ายโดยเฉลี่ย 646 บาทต่อครั้ง)
27.2% ชอบรับประทานอาหารฟาสต์ฟู้ด
(ค่าใช้จ่ายโดยเฉลี่ย 344 บาทต่อครั้ง)

ด้านแฟชั่น การแต่งตัว
69.5% ให้ความสนใจดูแลรักษารูปร่าง ผิว หน้า ผม
60.8% สนใจเรื่องเสื้อผ้า
28.5% ชอบใช้เงินกับการแต่งตัวมากกว่าเรื่องอื่นๆ
(ค่าใช้จ่ายโดยเฉลี่ย 1,206 บาทต่อครั้ง)
20.0% ชอบซื้อเสื้อผ้าจากแบรนด์ชั้นนำ
(ค่าใช้จ่ายโดยเฉลี่ย 2,641 บาทต่อครั้ง)
บริษัท ซีคอน บางแค จำกัด
607 ถนนเพชรเกษม แขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ กรุงเทพ ฯ 10160
Tel : 0-2721-8888 Fax : 0-2721-9444
ติดต่อเช่าพื้นที่ : EXT 575, 577, 596
สมัครงาน : EXT 683, 693
ข้อมูลทั่วไป : EXT 300
E-mail :
 hr@seaconbangkae.com
cs@seaconsquare.com

ที่มา : Seacon Bangkae



วันจันทร์ที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

Siam Square One


Urban Shopping Street ศูนย์การค้าใจกลางมหานคร



กว่า 40 ปีที่ สยามสแควร์เป็นศูนย์กลางย่านการค้าของกรุงเทพมหานคร จากที่ดินแปลงปลาสุดของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ริมถนนพระรามที่ 1 เริ่มแรกจากกลุ่มอาคารพาณิชย์และโรงภาพยนตร์ที่ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว จนแผ่ขยายไปสู่ที่ดินรอบข้าง เกิดเป็นศูนย์การค้าขนาดใหญ่ โรงแรม และอาคารสำนักงานทันสมัยจำนวนมากมาย ถึงกระนั้นลักษณะดั้งเดิมในใจกลางสยามสแควร์ ก็ยังคงความเป็นช็อปปิ้งสตรีท ที่ให้อิสระแก่การเดินพักผ่อนเพื่อจับจ่าย เป็นจุดนัดพบ เพื่ออัพเดทแฟชั่นและกระแสวัฒนธรรมร่วมสมัย รวมทั้งยังคงเป็นแหล่งช็อปปิ้งที่ครองใจทั้งวัยรุ่นและหนุ่มสาววัยทำงานมาอย่างต่อเนื่องและมั่นคง  เมื่อความต้องการในการจับจ่ายของชาวสยามสแควร์มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว พื้นที่ของอาคารพาณิชย์ที่มีอยู่  จึงไม่เพียงพอที่จะตอบสนองต่อความต้องการ แนวคิดการออกแบบช็อปปิ้งสตรีททางแนวตั้งอย่าง Siam Square One จึงเป็นคำตอบใหม่ให้กับสยามสแควร์


สยามสแควร์วัน ( Siam Square One : SQ-1 ) ศูนย์การค้าที่รวมถนนทุกสายแฟชั่นมาไว้ที่นี่ บนทำเลทองที่ดีที่สุดของประเทศไทย กลางใจเมือง "สยามสแควร์" ด้วยพื้นที่กว่า 8 ไร่ กับครั้งแรกของเมืองไทยในรูปแบบของถนนช้อบปิ้งแนวตั้ง 7 ชั้น หรือ "Urban Shopping Streets"       เพิ่มประสบการณ์ความสุขที่เหนือกว่าด้วย Ramp ทางเดินถนนแฟชั่นลอยฟ้า ที่พาดผ่านจากสถานีรถไฟฟ้าสยามเข้าสู่ตัวอาคารให้คุณสัมผัสกับ Concept แหล่งรวมแฟชั่น ร้านอาหาร และ ความงามสยามสแควร์ วัน จึงเป็น ศูนย์รวมและจุดนัดพบของ ความงาม ศิลปะนวัตกรรม ความบันเทิง และแฟชั่นฮิปแห่งใหม่ รวมทั้งแฟลกชิพสโตร์แบรนด์ดังไว้กลางมหานคร กับตำนานแฟชั่นวัยรุ่นไทยจากอดีตสู่อนาคต


ร่วมเติมสีสันความสุข ของความทันสมัยครั้งใหม่ในตัวคุณได้ที่ Siam Square One



พระรามที่ 1 และ ถนนพญาไท โดยบริษัท South East Asia เป็นผู้ดำเนินการพัฒนาให้เป็นศูนย์การค้าเชิงแบบและเปิดโล่ง พื้นที่ส่วนใหญ่ประกอบด้วยอาคารพาณิชย์ สูง 3-4ชั้น ประมาณ 610 คูหา มีอาคารขนาดใหญ่บ้าง เช่น โรงภาพยนตร์ โรงโบว์ลิ่ง มีการวางผังอาคาร ถนน ที่จอดรถและระบบสาธารณูปโภคไว้อย่างดี ธุรกิจที่เข้ามาเปิดดำเนินการหลากหลายอาทิเช่น ร้านหนังสือ ร้านเสื้อผ้า ร้านตัดผม และร้านอาหาร ส่วนใหญ่ย้ายมาจากย่านธุรกิจอื่น เช่น วังบูรพา สุรวงค์ สีลม เป็นต้น ต่อมาในปี 2527 ได้มีการรื้อโรงโบว์ลิ่งออกแล้วสร้างเป็นอาคารขนาดใหญ่ซึ่งปัจจุบันก็คือ โรงแรมโนโวเทล สยามสแควร์ ต่อมาในปี 2541
ก็มีโครงการ The center point of Siam square , โครงการ Siam Square Animation Windows

สยามสแควร์เริ่มดำเนินการ เมื่อประมาณ ปี 2513 เป็นการพัฒนาที่ดิน ประมาณ 63 ไร่ บริเวณสี่แยกปทุมวันริมถนนเป็นการเผยแพร่ภาพผ่านทาง
จอโทรทัศน์ พลาสม่า จำนวน 8 จุด บริเวณใต้โรงภาพยนตร์สยามและลิโด้

FLOOR PLAN












  •  ที่มา : Siam Square 1

วันศุกร์ที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2555

CPN


ซีพีเอ็นผงาดครอบคลุมทุกจุดยุทธศาสตร์สำคัญทั่วประเทศ ปูพรม 7 โครงการใหม่
ด้วยเม็ดเงินกว่า 25,300 ล้าน
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอ็น บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้าปลีกชั้นนำของประเทศไทยและพันธมิตรทางธุรกิจ เดินหน้าสร้าง Big Impact ครั้งใหญ่ให้วงการค้าปลีกไทย แถลงเปิดตัว 7 โครงการใหม่ในปี 2555-2556 ที่มีมูลค่าการลงทุนร่วมกันกว่า 25,300 ล้าน ได้แก่ โรงแรมเซ็นทารา อุดรธานี โฉมใหม่ (มกราคม 2555), เซ็นทรัลพลาซา อุดรธานี โฉมใหม่ (เปิดให้บริการวันที่ 27 มีนาคม 2555 และเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ Grand Opening 26 เมษายน 2555), เซ็นทรัลพลาซา สุราษฎร์ธานี (ตุลาคม 2555), เซ็นทรัลพลาซา ลำปาง (ธันวาคม 2555), เซ็นทรัลพลาซา อุบลราชธานี (เมษายน 2556), เซ็นทรัลเฟสติวัล หาดใหญ่ (ตุลาคม 2556) และเซ็นทรัลเฟสติวัล เชียงใหม่ (พฤศจิกายน 2556) เพื่อเพิ่มพื้นที่ GFA หรือ Gross Floor Area ของศูนย์การค้าของซีพีเอ็นจากกว่า 4.2 ล้าน ตร.ม. ในปัจจุบัน ให้เป็นกว่า 5 ล้าน ตร.ม. ในปี 2556 ย้ำตำแหน่งเบอร์หนึ่งบริษัทค้าปลีกไทยที่จะก้าวไกลไปเป็นองค์กรระดับโลก นายกอบชัย จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ของซีพีเอ็น กล่าวว่า “ซีพีเอ็นเล็งเห็นถึงอนาคตการเติบโตของหัวเมืองหลักซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญของประเทศ จึงได้เตรียมเข้าไปลงทุนพัฒนาศูนย์การค้า เพื่อเติมเต็มจังหวัดเหล่านั้นซึ่งมีศักยภาพสูงอยู่แล้วมีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น เราต้องการสร้าง Big Impact ในทุกๆ ที่ที่เราไปมุ่งมั่นพัฒนาศูนย์การค้า โดยการนำเทรนด์สมัยใหม่ทั้ง Globalization และ Urbanization ไปเพิ่มมูลค่าและความสุขให้กับท้องถิ่น ซึ่งการที่เราได้เข้าไปเปิดศูนย์การค้าในหลายจังหวัด ทำให้เกิดการกระจายการลงทุน และกระตุ้นเศรษฐกิจในท้องถิ่น สร้างงาน สร้างความเจริญให้กับท้องถิ่นมากขึ้น รวมถึงเอื้อประโยชน์ให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และเอื้อประโยชน์ให้การค้าในแถบชายแดนประตูสู่อินโดจีน ซึ่งทั้ง 7 โครงการใหม่ที่เราจะไปเปิดนั้นอยู่ในที่ทำเลที่ตั้งซึ่งเป็นพื้นที่กลยุทธ์สำคัญและมีกลุ่มเป้าหมายที่มีกำลังซื้อสูง”
ถึงแม้ว่าในปีที่ผ่านมาประเทศของเราจะต้องเผชิญวิกฤตน้ำท่วมครั้งใหญ่ แต่ด้วยความร่วมแรงร่วมใจของพันธมิตรร้านค้าและความทุ่มเทของพนักงานของซีพีเอ็นที่ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคใดๆ ทำให้เราสามารถขยายธุรกิจได้ตามเป้าหมาย ซึ่งซีพีเอ็นประสบความสำเร็จอย่างมากกับการเปิดตัว 4 โครงการใหญ่ ภายในเวลาเพียง 1 ปี ถือเป็นการสร้างปรากฎการณ์ใหม่ให้วงการค้าปลีกไทยทั้ง 4 โครงการใหม่สามารถ Draw Traffic ได้ถึง 7 ล้าน คน ใน 1 เดือนแรก นอกจากนี้ ยังมียอดขายที่เกินเป้าหมายในทุกโครงการ ด้วยการเปิดเซ็นทรัลพลาซา เชียงราย, การพลิกโฉมครั้งประวัติศาสตร์ของเซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าวใหม่ ภายในระยะเวลาเพียง 6 เดือนและล่าสุด เซ็นทรัลพลาซา แกรนด์ พระราม 9 ที่เป็นศูนย์การค้าแห่งแรกที่มีทางเชื่อมกับรถไฟฟ้าใต้ดิน ทำให้เป็นศูนย์ฯที่มี Traffic ดีมาก ซึ่งเปิดมา 1 เดือนมี Traffic กว่า 2 ล้านคน สร้างยอดขายให้กับร้านค้า และยังสร้างความตื่นตาตื่นใจรวมทั้งสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับผู้มาใช้บริการ ถือเป็นการสร้างปรากฎการณ์ใหม่ให้วงการค้าปลีกไทยอย่างที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน
นายกอบชัย กล่าวเสริมว่า “ในปีที่ผ่านมา ซีพีเอ็นได้เป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงมาให้กับวงการค้าปลีกไทย ด้วยการนำนวัตกรรมใหม่มาใช้ในหลายๆ ด้าน ทั้งด้านการออกแบบ การตลาด และการบริหารจัดการองค์กร ซึ่งเรากวาดรางวัลการรันตีความสำเร็จระดับประเทศและระดับนานาชาติจากองค์กรชั้นนำมากมายกว่า 50 รางวัล ซึ่งรางวัลแห่งความสำเร็จทั้งหมด ถือเป็นรางวัลเกียรติยศสูงสุดที่ซีพีเอ็นภาคภูมิใจ ที่เราได้สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศในฐานะบริษัทของคนไทยที่ก้าวขึ้นสู่ความสำเร็จในระดับภูมิภาคด้านอุตสาหกรรมค้าปลีก เพื่อยกระดับให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของการช้อปปิ้งในเอเชีย ทำให้คนไทยสามารถภูมิใจได้ว่าประเทศไทยมีศูนย์การค้าที่มีมาตรฐานไม่แพ้ที่ใดในโลก”สำหรับ แนวโน้มธุรกิจค้าปลีกในปี 2555 นายกอบชัย กล่าวว่า “เศรษฐกิจของไทยมีสัญญานที่ดีในปีนี้ เพราะมีปัจจัยที่จะช่วยหนุนให้ธุรกิจขยายตัวหลายด้าน ทั้งมาตรการการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ และการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคที่มีแนวโน้มดีขึ้น รวมถึงการคาดการณ์ภาพรวมเศรษฐกิจและอัตราการเติบโตของ GDP ในปี 2555 ที่ยังคงมีทิศทางการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ตอกย้ำว่าธุรกิจในปีนี้มีทิศทางที่จะเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง และซีพีเอ็นเองก็จะทุ่มเม็ดเงินในการขยายธุรกิจต่อเนื่อง”นอกจากนี้ ในโลกปัจจุบัน ซีพีเอ็นไม่ได้แข่งขันกับผู้ประกอบการในประเทศเท่านั้น แต่ยังมีผู้ประกอบการรายใหญ่จากต่างชาติเข้ามา รวมถึงความต้องการของผู้บริโภคที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ซึ่งการแข่งขันเป็นเรื่องที่ท้าทาย เพราะทำให้องค์กรแข็งแกร่งขึ้นและส่งผลดีต่อผู้บริโภค ซีพีเอ็นมุ่งมั่นที่จะพัฒนาและก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง และจะเป็นผู้นำในการแสวงหาสิ่งใหม่ๆ มาให้กับผู้บริโภค ซึ่งซีพีเอ็นได้ลงทุนไปกับการทำวิจัยพัฒนา การสร้างทีม และการนำนวัตกรรมใหม่ๆ มาใช้ เพื่อให้สามารถแข่งขันในระดับโลกได้ ศูนย์การค้าของซีพีเอ็นจะต้องสามารถตอบสนองต่อการสร้างประสบการณ์ของผู้บริโภคที่เหนือกว่าคู่แข่งในทุกมิติ ทั้งร้านค้า บริการและกิจกรรมต่างๆ เราจึงต้องนำเทรนด์ใหม่ๆ ในการพัฒนาศูนย์การค้ามาใช้ สรรหาร้านค้าที่มีความทันสมัย แปลกใหม่เข้ามา รวมถึงนำนวัตกรรมการออกแบบ ตกแต่งที่ทันสมัยตามเทรนด์การการออกแบบของโลกมาพัฒนา ตลอดจนแคมเปญการตลาด ที่สร้างปรากฎการณ์ใหม่ๆ เพื่อสร้างความแตกต่างให้ศูนย์การค้าของเรามีความน่าสนใจโดนใจผู้บริโภค
การลงทุน Big Project ทั้ง 7 โครงการ ของซีพีเอ็นในครั้งนี้ มีจุดมุ่งหมายเพื่อย้ำสถานะการเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้าปลีกอันดับหนึ่งของประเทศไทยที่จะก้าวไปเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้าปลีกระดับโลก ซึ่งซีพีเอ็นมั่นใจว่าทุกโครงการจะเป็นโครงการที่มีศักยภาพสูงที่จะสามารถสร้างปรากฎการณ์ใหม่ให้กับวงการรีเทลของไทยได้อย่างแน่นอน

วันศุกร์ที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

Park Village พระราม 2









Park Village เป็นศูนย์การค้าแบบ Lifestyle Mall คือไม่ได้เป็นเพียงแค่สถานที่ช็อปปิ้งเพียงอย่างเดียว ประกอบด้วยร้านอาหาร ร้านค้า ร้านสะดวกซื้อ และบริการหลากหลายรูปแบบ นอกจากนั้น Park Village ยังให้บริการที่พักระดับพรีเมี่ยม ทั้งในรูปแบบห้องเช่าพักรายวัน รายเดือน และรายปี บริหารงานโดยบริษัท เอส.ที. ธรรมพร จำกัด







Type of Center : Lifestyle Center & Residence


Location : Rama II Soi 56


Gross size of center : 19,000 SQ.M.


Gross Leasable area : 5,000 SQ.M.


Number of Parking : 400 Cars.


Grand Opening Day : April 2010


Anchor Tenants : O2 Fitness and Babies Genius


Tenants : Squeeze


Top charoen Vision


Honey House Trendy Shop


Gela’Bella


Bo hairdresser


I Chi ice












การผสมผสานกันระหว่างร้านอาหารชั้นนำ, ร้านค้าจำหน่ายสินค้า ฟิตเนส และบริการหลากหลาย ตลอดจนกิจกรรมที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ต่างๆนั้น ถือเป็นจุดดึงดูดกลุ่มลูกค้าที่กำลังมองหาทางเลือกของไลฟ์สไตล์สมัยใหม่และที่ พาร์ควิลเลจ พระราม 2 เราได้นำสิ่งต่างๆเหล่านี้มารวมกันให้คุณสามารถเข้าถึงได้อย่างสะดวกสบาย



นอกจากจะสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างทั่วถึง พาร์ควิลเลจ พระราม 2 ยังมีความภาคภูมิใจที่จะมีส่วนร่วมในการพัฒนาความเป็นอยู่ รวมไปถึงสิ่งแวดล้อมและความสวยงามน่าอยู่ของชุมชนละแวกนี้ให้ดียิ่งๆขึ้น อีกทั้งยังกล่าวได้ว่าโครงการพาร์ควิลเลจ พระราม 2 จะช่วยสร้างโอกาสการทำงานให้แก่ผู้คนในชุนชนนี้ และก่อให้เกิดการลงทุนซึ่งจะนำมาซึ่งการพัฒนาทางเศรษฐกิจ และการพัฒนาสังคมที่ยั่งยืนต่อไป
เราได้แบ่งพื้นที่ธุรกิจทั้งหมดออกเป็น 3 โซนหลักดังที่อธิบายไว้ด้านล่างนี้เพื่อเป็นแนวทางให้ผู้สนใจเช่าเข้าใจถึงแนวคิด(คอนเซ็ปต์)ของโครงการอย่างไรก็ดีสำหรับผู้ประกอบกิจการซึ่งไม่ตรงกับโซนเหล่านี้ยังมีโอกาสที่จะได้พื้นที่ซึ่งจัดไว้สำหรับร้านค้าเบ็ดเตล็ดในจุดต่างๆทั่วโครงการ ได้แก่ ร้านเสื้อผ้า/กระเป๋า ร้านกิ๊ฟชอฟ ร้านหนังสือ ธนาคาร ร้านดอกไม้ ตลอดจนสินค้าและบริการเพื่อความสะดวกอื่นๆ

Restaurant Zones: ชั้น 2ของ อาคารA และอาคาร B(เชื่อมต่อกันด้วยสะพาน SKY BRIDGE)
แนวคิดของโซนอาหารนี้จะเน้นสุนทรียภาพของการนัดพบกับเพื่อนฝูง ญาติมิตร หรือเพื่อนร่วมงาน ในพื้นที่ซึ่งตกแต่งแบบสบายๆ ให้คุณได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศ และลิ้มรสชาดของอาหารและเครื่องดื่มหลายหลายประเภท ได้แก่ ทะเล มังสวิรัติ นานาชาติ ไทย จีน ญี่ปุ่น เกาหลี ฝรั่ง ฟิวชั่น เพื่อสุขภาพ เป็นต้น ซึ่งสิ่งประกอบเหล่านี้จะยังให้โซนอาหารเป็นจุดดึงดูดให้ผู้คนเข้ามาที่ พาร์ควิลเลจ และนอกเหนือจากโซนอาหารโดยเฉพาะแล้ว โครงการยังมีพื้นที่สำหรับร้านไอศกรีม ขนม เครื่องดื่ม และคาเฟ่ ในจุดอื่นๆที่เข้าถึงได้สะดวก







Health and Beauty Zone: ชั้น 3 ของอาคาร B
โซนเพื่อสุขภาพและความงาม ตั้งอยู่ในบริเวณใกล้ทางเข้าฟิตเนส จัดเป็นโซนสำหรับร้านเสริมสวย ร้านทำเล็บ ร้านขายวิตามิน อาหารเสริม เครื่องสำอางค์ สปา อุปกรณ์และเสื้อกีฬา เป็นต้น







Learning Zone: ชั้น 1 และ 2 ของอาคาร C
โซนแห่งการเรียนรู้เนื่องจากอาคาร C อยู่ใกล้กับโรงเรียนและโรงพยาบาลโซนนี้ถูกจัดขึ้นเพื่อเน้นสินค้าและบริการที่เกี่ยวกับเด็กแต่ก็ไม่ลืมการเรียนรู้ของผู้ใหญ่เพราะเราเชื่อว่าการเรียนรู้เป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์ที่มีคุณภาพธุรกิจที่เหมาะสมกับโซนนี้ได้แก่ พัฒนาการเด็ก เนอสเซอรี่ ติวเตอร์ ของเล่น เสื้อผ้าเด็กหรือ สอนภาษา ดนตรี ศิลปะ งานฝีมือ ให้กับทั้งเด็กและผู้ใหญ่เป็นต้น

































พาร์ควิลเลจ พระราม 2 ตั้งอยู่บนถนนพระรามที่ 2 เพียง 3 กิโลเมตรจากทางด่วนเฉลิมมหานคร และเพียง 2 กิโลเมตรจากถนนกาญจนาภิเษก (วงแหวน) อีกทั้งตั้งอยู่บนใจกลางโซนธุรกิจหลักบนถนนพระรามที่ 2 โดยโครงการมีพื้นที่เชื่อมติดกับโรงพยาบาลนครธน และโรงเรียนจารุวัฒนานุกุล และแวดล้อมด้วยสถานที่ต่างๆในบริเวณรัศมี 1 กิโลเมตร อันได้แก่ เซ็นทรัลพระราม 2 ที่ว่าการเขตบางขุนเทียนและสถานที่ราชการอื่นๆ โฮมโปร บิ๊กซี และโรงเรียนอีกหลายแห่งในขณะที่เทสโก้โลตัส และคาร์ฟูร์ อยู่ห่างออกไปเพียง 2 กิโลเมตร






ด้วยทำเลที่อยู่ในศูนย์กลางของกลุ่มธุรกิจ และการเดินทางที่สะดวกสบาย ทำให้พาร์ควิลเลจ พระราม 2 เป็นที่น่าสนใจสำหรับกลุ่มลูกค้าดังต่อไปนี้
- กลุ่มลูกค้าระดับ B ถึง A ที่พักอาศัยอยู่ในละแวกพระราม 2
- พนักงานจาก องค์กร บริษัท และห้างร้านในละแวกนี้
- บุคลากร และผู้มาติดต่อ โรงพยาบาลนครธน และที่ว่าการเขตบางขุนเทียน
- คณะครูอาจารย์ ผู้ปกครอง และนักเรียน จากโรงเรียนใกล้เคียง
- ชุมชนโดยรอบ ได้แก่ เอกชัย บางบอน และพระราม2ตอนใต้ไปจนถึงสมุทรสาคร